เมื่อ ลิเวอร์พูล แพ้ แมนยูฯ

จบลงไปแล้วสำหรับศึกแดงเดือดไฟต์ล่าสุด ฉบับบอลถ้วย ซึ่งผลปรากฏว่าเป็น "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เอาชนะ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ในช่วงต่อเวลาพิเศษไปแบบสุดมัน 4-3

ก่อนเกมนี้จะเริ่มขึ้น แฟนบอล และกูรูหลายคนมองว่า แมนยูฯ มีโอกาสตกรอบแบบคาบ้านสูงมาก เพราะไม่ว่าจะมองมุมไหนก็เป็นรอง ลิเวอร์พูล ได้เปรียบอย่างเดียวคือได้เล่นในบ้าน

อย่างไรก็ตาม ปิศาจแดง ออกสตาร์ตได้อย่างสุดเซอร์ไพรส์ ได้ประตูนำไปก่อนจาก สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ นาทีที่ 10 แต่จากนั้น ลิเวอร์พูล กลับมาได้ รัวยิง 2 ประตู ก่อนจบครึ่งแรก จาก อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ นาทีที่ 44 และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นาทีที่ 45+2

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง แมนยูฯ ต้องรอจนถึงนาทีที่ 87 ถึงจะตามตีเสมอเป็น 2-2 จาก แอนโทนี และกลายเป็นประตูสำคัญ ที่ทำให้จบ 90 นาที เสมอกัน 2-2 ต้องต่อเวลาพิเศษ

นาทีที่ 105 แฟนบอลในโรงละครแห่งความฝันเงียบกริบเมื่อ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ยิงเข้าไปให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 3-2 แต่สุดท้าย แมนยูฯ ที่เกือบจะหลับ แต่ดันกลับมาได้ ยิงแซง 2 ประตูรวดอย่างเหลือเชื่อจาก มาร์คัส แรชฟอร์ด นาทีที่ 112 และ อาหมัด ดิยัลโล นาทีที่ 120+1 คว้าชัยไป 4-3 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้อย่างสะใจแฟนผี โดยจะเข้าไปเจอกับ โคเวนทรี ในรอบตัดเชือกต่อไป และถือเป็นบทเรียนของ ลิเวอร์พูล ว่าจะต้องปิดเกมให้ได้เมื่อมีโอกาสขึ้นนำคู่แข่ง ไม่งั้นก็จะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับพวกเขาอีก

คอลัมน์แอดมุงกี้วันนี้ ขอพูดถึงแดงเดือดเอฟเอคัพเมื่อคืน ที่ แมนยูฯล้างแค้นเขี่ย ลิเวอร์พูล ตกรอบแบบแฟนหงส์เจ็บปวด นอนดึกแล้วยังโดนแซงตกรอบนาทีสุดท้ายครับ.


โพสต์จาก thairathsport